- มิ. ของทุกปี พื้นที่ทะเลอ่าวไทยบางส่วนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี เป็นพื้นที่วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน ของสัตว์น้ำที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจหลายชนิด โดยเฉพาะปลาทู ได้อาศัยเป็นแหล่งวางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมประมง จึงได้กำหนดมาตรการเพื่อให้การใช้ประโยชน์จากสัตว์น้ำ ให้มีความสมดุลกับศักยภาพการผลิตของธรรมชาติ และมีการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน โ ดยได้กำหนดให้ตั้งแต่วันที่ 15 ก. - 14 มิ. ของทุกปี ห้ามมิให้ผู้ใดทำการประมงในพื้นที่ทะเลอ่าวไทยบางส่วนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และกำหนดพื้นที่ควบคุมต่อเนื่องจากมาตรการปิดอ่าวฯ ตั้งแต่วันที่ 16 พ. ค. -14 มิ.
เนื้อหาโดย สุมาอี้ ภาพตอนคอยังไม่หัก ปลาทู ( อังกฤษ: Mackerel) เป็น ปลาทะเล ที่อยู่ใน สกุล Rastrelliger ในวงศ์ Scombridae ซึ่งเป็นวงศ์เดียวกับ ปลาโอ, ปลาอินทรี และ ปลาทูน่า มีพฤติกรรมมักอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูงบริเวณกลางน้ำถึงผิวน้ำ ตั้งแต่บริเวณชายฝั่งจนถึงระดับความลึก 200 เมตร ในน่านน้ำไทย พบทั้งหมด 3 ชนิด เป็นปลาที่ผูกพันกับวิถีชีวิต คนไทย เป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นอาหารทะเลหลักของคนไทยมาช้านาน ประวัติ ในสมัย รัชกาลที่ 6 ได้จ้าง ดร. ฮิว แมคคอร์มิค สมิธ นัก มีนวิทยา ชาวอเมริกัน มาเป็นที่ปรึกษา กรมรักษาสัตว์น้ำ (กรมประมงในปัจจุบัน) เพื่อสำรวจพันธุ์ปลาต่าง ๆ ในประเทศไทย มี หลวงมัศยจิตรการ (ประสพ ตีระนันทน์) เป็นผู้ช่วยและวาดภาพปลา ท่านผู้นี้เป็นผู้วาดภาพปลาทูภาพแรกในประเทศไทย ใน พ. ศ. 2468 ไทยนำเรืออวนตังเกจาก จีน มาใช้ทำให้จับปลาทูได้มาก ปลาทูที่เหลือทำเป็นปลาทูเค็มส่งไปขายต่างประเทศ เช่น อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง จนใน ภาษาอินโดนีเซีย เรียกปลาทูเค็มว่า Ikan siam พ. 2503 รัฐบาลไทยนำเครื่องมืออวนลากจาก เยอรมนีตะวันตก มา ใช้และเมื่อมีการประกาศใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับแรกทำให้การ ประมงขยายตัวมากขึ้น จนกระทั่งจำนวนปลาทูในอ่าวไทยลดจำนวนลงในที่สุด ที่อยู่และการแพร่พันธุ์ ในอดีตเชื่อว่าปลาทูที่จับได้ในอ่าวไทยมาจาก เกาะไหหลำ แต่ปัจจุบันพบว่าปลาทูเกิดในอ่าวไทยเป็นปลาผิวน้ำ รวมกันเป็นฝูงบริเวณใกล้ฝั่ง พบเฉพาะบริเวณอุณหภูมิผิวน้ำไม่ต่ำกว่า 17 องศาเซลเซียส ความเค็มของน้ำไม่เกิน 32.
ปลาทูไทยกำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัว เป็นผลมาจากกรมประมงได้เพิ่มมาตรการฟื้นฟูทรัพยากรปลาทูอย่างต่อเนื่อง อ่าวไทยในอดีตเคยจับปลาทูได้ปีละ 1. 2 แสนตัน แต่ด้วยมีการจับเกินศักยภาพที่ธรรมชาติจะให้ได้ ปลาทูที่พร้อมจะวางไข่ในอ่าวไทยตอนกลาง ถูกจับไปมากถึง 90% ด้วยเครื่องมือทำการประมงถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงมากขึ้น และมีการใช้เครื่องมือทำประมงบางชนิดในเขตทะเลชายฝั่ง เช่น อวนล้อมจับ อวนติดตาที่ยาวกว่า 2, 500 เมตร ใช้เครื่องมือทำประมงประกอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (ปั่นไฟ)... ส่งผลให้ปี 2558 ปลาทูไทยลดลงอย่างน่าใจหายไปถึง 72% เพราะจับได้แค่เพียง 33, 931 ตันและลดลงอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด สถิติปี 2561 จับได้เพียง 11, 306 ตัน หรือแค่ 9. 4% จากที่เคยจับได้ในอดีต
อยากทราบข้อมูลวงจรชีวิตของปลาที่เราบริโภคกันอยู่ทุกวันนี้ ยกตัวอย่างเช่น ปลานิล ปลาช่อน ปลากราย ปลาดุก ปลาทู ฯลฯ คำถาม 1. ถ้าปลาเหล่านั้นไม่โดนจับไปกิน มันจะมีอายุขัย ประมาณเท่าไร 2. ปลาชนิดใดบ้าง มีวงจรชีวิตยาว 3. ปลาชนิดใดบ้าง มีวงจรชีวิตสั้น พยายามหาข้อมูลแล้วครับไม่พบเลย ส่วนมากจะบอกระยะเวลาที่จะเอาไปขาย หรือบริโภค ขอบคุณครับ
เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เน้นย้ำให้กรมประมงดำเนินมาตรการอนุรักษ์เพื่อรักษา ทรัพยากรสัตว์น้ำ ให้มีความยั่งยืนและให้เกิดความสมดุลและเหมาะสมกับการประกอบอาชีพของพี่น้องชาวประมง และมอบนโยบายการปฏิบัติงานยึดหลัก 3 ป. คือ การป้องกัน การป้องปราม และการปราบปราม พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการสร้างการรับรู้ความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนเป็นสำคัญด้วย ทั้งนี้ จากข้อมูลที่ได้จากการสำรวจและสุ่มเก็บตัวอย่างปลาทูในช่วงมาตรการ ปิดอ่าวไทย ในรอบปี 2564 พบว่าพ่อแม่ปลามีความสมบูรณ์เพศ โดยเฉพาะปลาทู พบพ่อแม่พันธุ์ มีขนาดความยาวเฉลี่ย 18. 5 เซนติเมตร นอกจากนี้ ยังพบลูกปลาเศรษฐกิจ ลูกปลาทู - ลัง และปลาทูขนาดเล็กมีการเคลื่อนย้ายจากเขตปิดอ่าวตอนกลางขึ้นมาอาศัยเลี้ยงตัวในอ่าวไทยรูปตัว ก จึงแสดงให้เห็นว่า ห้วงเวลา พื้นที่ และเครื่องมือที่อนุญาตให้ทำการประมงตามประกาศมาตรการปิดอ่าวไทย มีความเหมาะสม สอดคล้องกับวงจรชีวิตสัตว์น้ำ โดยการสำรวจแต่ละช่วงเวลาพบว่า ตั้งแต่ 15 ก. 65 ในเขตพื้นที่ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี พบพ่อแม่พันธุ์ปลาทูมีความสมบูรณ์เพศ และพร้อมผสมพันธุ์ และมีการแพร่กระจายของลูกปลาทู-ปลาลัง และปลาเศรษฐกิจขนาดเล็ก และช่วงเวลา 16 พ.
ร. ก.
ศ. 2558 เพื่อป้องกันไม่ให้มีการทำประมงไม่ชอบด้วยกฎหมาย การบริหารจัดการด้านการประมงและการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำ การใช้ปริมาณผลผลิตสูงสุดของ สัตว์น้ำ ที่สามารถทำประมงได้อย่างยั่งยืน เป็นจุดอ้างอิงในการพิจารณาออกใบอนุญาตทำประมง ขยายพื้นที่และเวลาปิดอ่าวห้ามทำประมงในพื้นที่ 7 ไมล์ทะเล การปิดอ่าวไทยตอนกลาง ตั้งแต่ 16 พ. ค. -14 มิ. ย. รวมถึงการประกาศห้ามทำการประมงหรือปิดอ่าวบริเวณรอยต่อของพื้นที่ปิดอ่าวไทยตอนกลางและอ่าวไทยรูปตัว ก ตั้งแต่วันที่ 16 พ. ของทุกปี พร้อมปรับปรุงการปิดอ่าวไทยตัว ก ให้สอดคล้องกับการอพยพของปลาทู โดยปิดอ่าว 2 ช่วง อ่าวไทยตอนในฝั่งตะวันตกระหว่าง 15 มิ. -15 ส. และอ่าวไทยตอนในด้านเหนือระหว่าง 1 ส. -30 ก.
วงจรชีวิตปลาทู 2 มี. ค. 58 19:33 ไทยรัฐนิวส์โชว์ ทุกวันจันทร์ - อาทิตย์ เวลา19. 00 น. เป็นต้นไป การปิดอ่าวไทย 3 เดือน ก็เพื่อบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำในฤดูปลาที่มีไข่วางไข่ และเลี้ยงตัวในวัยอ่อน โดยเฉพาะปลาทู ที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นบริเวณอ่าวไทย แต่หากชาวประมงฝ่าฝืนทำการประมง
กรมประมงประกาศเตรียม "ปิดอ่าวไทย" ครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด เริ่มตั้งแต่ 15 ก. พ. – 15 พ. ค. 2565 เป็นระยะเวลา 90 วัน วันที่ 7 ก. 2565 มีรายงาน ด่วน กรมประมงประกาศปิดอ่าวไทย ครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด เริ่มตั้งแต่ 15 ก. - 15 พ. 2565 เป็นระยะเวลา 90 วัน กรมประมง ประกาศใช้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน ใน ทะเลอ่าวไทย ตอนกลาง โดยครอบคลุมเขตพื้นที่บางส่วนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ในระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ - 15 พฤษภาคม 2565 เป็นระยะเวลา 90 วัน และต่อด้วยเขตชายฝั่งทะเลตามแผนที่แนบท้ายของ ประกาศปิดอ่าวไทย ตอนกลางและเขตต่อเนื่องปลายแหลมเขาม่องไล่ ถึงอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในระหว่างวันที่ 16 พ. - 14 มิ. ย. 2565 เป็นระยะเวลา 30 วัน โดยการดำเนินมาตรการฯ มีความสอดคล้องกับวงจรชีวิตปลาทู สามารถฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำได้อย่างยั่งยืน โดยนาย เฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ รองอธิบดีกรมประมง กล่าวว่า มาตรการ " ปิดอ่าวไทย " เป็นมาตรการสำคัญในการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน ในฝั่งทะเลอ่าวไทย มีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์พ่อแม่พันธุ์สัตว์น้ำที่มีไข่แก่ พร้อมสืบพันธุ์วางไข่ และอนุรักษ์สัตว์น้ำวัยอ่อนให้เจริญเติบโตเป็นสัตว์น้ำรุ่นใหม่ สามารถฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำให้มีใช้อย่างยั่งยืน และเป็นมาตรการที่สำคัญของกรมประมงที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดย ดร.
ด้วยเครื่องมือทำการประมงถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงมากขึ้น และมีการใช้เครื่องมือทำประมงบางชนิดในเขตทะเลชายฝั่ง เช่น อวนล้อมจับ อวนติดตาที่ยาวกว่า 2, 500 เมตร ใช้เครื่องมือทำประมงประกอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (ปั่นไฟ)... ส่งผลให้ปี 2558 ปลาทูไทยลดลงอย่างน่าใจหายไปถึง 72% เพราะจับได้แค่เพียง 33, 931 ตันและลดลงอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด สถิติปี 2561 จับได้เพียง 11, 306 ตัน หรือแค่ 9.
guiacatolico.com, 2024