แนะนำแก่ผู้รับอีเมลว่าคุณชื่ออะไรและกำลังทำอะไรอยู่ (เช่น เป็นนักเรียนชั้นปีที่สาม สาขาชีววิทยาที่มหาวิทยาลัย ก. ) อธิบายว่าคุณทราบเกี่ยวกับการฝึกงานนี้ได้อย่างไร เช่น เจอบนอินเตอร์เน็ต หนังสือพิมพ์ หรือมีคนบอกมา หากคุณมีคนรู้จักทำงานในบริษัทก็ให้บอกเร็วเท่าที่ทำได้ เช่น คุณอาจจะเขียนว่า หัวหน้าผู้ดูแลโครงการ/อาจารย์/ฯลฯ (ตำแหน่งและชื่อ) แนะนำให้คุณติดต่อมา 3 บอกว่าคุณสะดวกฝึกงานเมื่อไหร่. บอกไปว่าคุณสามารถเริ่มฝึกงานได้ตั้งแต่วันไหนถึงวันไหนและระยะเวลายืดหยุ่นได้หรือไม่ เช่น ถ้าคุณสามารถฝึกงานช่วงฤดูใบไม้ผลิและยังสามารถทำงานเต็มเวลาได้ในช่วงฤดูร้อนก็บอกไปด้วย ระบุจำนวนชั่วโมงต่อสัปดาห์ที่คุณสามารถทำงานได้ไปด้วยล่ะ 4 พูดถึงเป้าหมายของการฝึกงาน. คุณต้องฝึกงานเพื่อเก็บหน่วยกิตหรือเปล่า? ถ้าเป็นไปได้ก็เขียนบอกว่าคุณฝึกงานก็เพราะมีเป้าหมายหลักคือเพื่อสะสมประสบการณ์และคุณค่อนข้างยืดหยุ่นเรื่องหน้าที่ความรับผิดชอบและผลตอบแทน นอกจากนี้ก็เขียนไปด้วยว่าคุณคาดหวังจะได้เรียนรู้ทักษะอะไรจากการฝึกงานนี้ 5 เขียนว่าคุณชื่นชมอะไรเกี่ยวกับบริษัทนี้. เขียนอะไรที่คุณรู้หรือคิดว่าบริษัทให้ความสำคัญ หลีกเลี่ยงไม่พูดถึงข่าวแง่ลบ พยายามทำให้อีเมลสมัครงานฟังดูดี ตัวอย่างเช่น คุณอาจเขียนว่าบริษัทนี้มีชื่อเสียงถึงศักยภาพอันดีเลิศและคุณยังชื่นชมที่บริษัทให้เงินสนับสนุนช่วยเหลือสัตว์ถูกทอดทิ้ง เป็นต้น อธิบายถึงคุณสมบัติและประสบการณ์ของคุณ.
/Ms. /Mrs. Smith" ขึ้นอยู่กับชื่อตำแหน่งและเพศของผู้ติดต่อ อย่าเขียนว่า "เฮ้แมรี่" หรือ "สวัสดี" ใช้พิธีการเดียวกับที่คุณจะใช้ในการเขียนจดหมายแบบมืออาชีพ หากคุณไม่สามารถระบุเพศของบุคคลนั้นได้ให้ระบุชื่อนามสกุลของบุคคลนั้น ตัวอย่างเช่นเขียนว่า "Dear Bobbi Reynolds" หากบุคคลที่คุณเขียนถึงมีปริญญาเอกอย่าลืมเรียกบุคคลเหล่านี้ว่า "ดร" เช่น "เรียนดร. เรย์โนลด์ส" แนะนำตัวเอง.
คุณเป็นโค้ชทีมหรือไม่?
เขียนถึงคุณสมบัติด้านการศึกษาของคุณไปเสียด้วย หากคุณเคยมีบทบาทเป็นหัวหน้าก็อธิบายหน้าที่และ/หรือความสำเร็จที่ได้รับ คุณเคยเป็นผู้นำสภานักศึกษาไหม? คุณเคยเป็นผู้ฝึกสอนทีมนักกีฬาไหม? อธิบายถึงกิจกรรมเหล่านี้สั้นๆ คนอ่านจะได้ไม่สูญเสียความสนใจไปเสียก่อน แทนที่จะหาถ้อยคำมาอธิบายตัวตน คุณควรยกตัวอย่างที่เป็นชิ้นเป็นอันเพื่ออธิบายว่าคุณมีดีอย่างไร ตัวอย่างเช่น แทนที่จะบอกว่า "ดิฉันเป็นนักเรียนที่มุ่งมั่น" ก็เขียนไปว่า "ดิฉันมักมีผลการเรียนเป็นสิบเปอร์เซ็นต์แรกของชั้นเรียนเสมอ" แทน 1 เขียนบอกว่าคุณจะติดต่อกลับมาเมื่อไหร่. อธิบายว่าคุณจะติดต่อกลับมายังผู้ว่าจ้างเมื่อไหร่และอย่างไรเพื่อติดตามสถานะใบสมัคร ให้ข้อมูลการติดต่อ เช่น ชื่อ อีเมล เบอร์โทรศัพท์และเวลาที่สะดวกไว้ เช่น คุณควรเขียนว่า "สามารถติดต่อผมได้ทางโทรศัพท์หรืออีเมล หากคุณไม่สามารถติดต่อกลับมาได้ ผมจะเป็นฝ่ายโทรไปในวันจันทร์หน้า" เป็นต้น 2 จบอีเมล. การแสดงความขอบคุณผู้อ่านที่อุตส่าห์เสียเวลาพิจารณาเอกสารการสมัครนั้นเป็นเรื่องสุภาพ จบด้วยคำลงท้ายแสดงความนับถือ เช่น "ด้วยความเคารพ" หากคุณเคยพูดคุยกับคน ๆ นั้นทางโทรศัพท์หรือพบกันก่อนหน้านี้แล้ว คุณอาจจะลงท้ายได้ว่า "ขอแสดงความนับถือ" แต่อย่าลงท้ายแค่ว่า "ขอบคุณครับ/ค่ะ" แต่เพียงอย่างเดียวในการส่งอีเมลอย่างเป็นทางการ จากนั้นก็ลงท้ายด้วยชื่อเต็มของคุณ เช่น โจอานนา สมิธ ไม่ใช่แค่โจอานนาเฉย ๆ คิดให้ดีก่อนแนบเอกสาร.
ในยุคดิจิตัลอย่างปัจจุบัน การส่งอีเมลไปขอฝึกงานนั้นเป็นเรื่องที่นิยมทำกันมากขึ้นเรื่อย ๆ บทความจากวิกิฮาวนี้จะช่วยให้คุณรู้ว่าควรจะเขียนอีเมลไปขอฝึกงานอย่างไร 1 สร้างบัญชีอีเมลให้ดูเป็นงานเป็นการ. คุณควรใช้อีเมลที่ดูเป็นทางการและมีความชัดเจนเมื่อต้องติดต่อด้านหน้าที่การงาน หลีกเลี่ยงไม่ใช้ชื่อเล่นหรือการใส่สัญลักษณ์ที่ไม่จำเป็นรวมถึงตัวเลขลงไปอีเมลแล้วตั้งชื่อจากชื่อตัวเองน่าจะดีกว่า ตัวอย่างอีเมลเช่น ก็ถือว่าใช้ได้อยู่ ถ้าอีเมลปัจจุบันที่คุณใช้เชื่อมต่อกับบัญชีโซเชียลมีเดียที่มีเนื้อหาที่ดูไม่เป็นมืออาชีพ คุณควรสร้างและใช้อีเมลใหม่แล้วก็ตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของโซเชียลมีเดียใหม่เสียด้วย 2 หาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท. ก่อนที่คุณจะสมัครฝึกงาน หาข้อมูลของบริษัทที่คุณอยากทำงานด้วยเสียก่อน เข้าไปดูเว็บไซต์ของบริษัท อ่านบทความข่าวต่าง ๆ เกี่ยวกับบริษัท ถ้าบริษัทขายสินค้าที่คุณสามารถเข้าถึงได้ เช่น โซเชียลมีเดีย ก็ลองใช้สินค้านั้นดูสักอาทิตย์นึง ใช้ข้อมูลเชิงลึกที่คุณได้มาเพื่อช่วยเขียนจดหมายขอฝึกงาน นายจ้างที่มีวิสัยทัศน์จะชื่นชมผู้สมัครที่มีความรู้เกี่ยวกับบริษัทและสามารถแสดงความรู้นั้นออกมาได้อย่างเป็นรูปธรรม 3 หาคนรู้จักในบริษัท.
จุดประสงค์ของการฝึกงานคือเพื่อพัฒนาทักษะทางวิชาชีพในสภาพแวดล้อมที่ใช้งานได้จริง เนื่องจากการฝึกงานเป็นโอกาสในการเรียนรู้ การประเมินทักษะที่คุณได้พัฒนาขึ้นในช่วงเวลาที่อยู่ในบริษัทจึงเป็นสิ่งสำคัญ นี่คือเหตุผลที่รายงานการฝึกงานเป็นรายงานที่ช่วยให้ผู้ประเมินเข้าใจภารกิจและโครงสร้างที่คุณดำเนินการฝึกงาน นี่คือการเน้นย้ำสิ่งที่คุณได้ทำและเรียนรู้ระหว่างการฝึกงานของคุณ ในบทความนี้ เรากำหนดส่วนสำคัญของa รายงานการฝึกงานและให้แบบจำลองและตัวอย่างเชิงปฏิบัติเพื่อเขียนของคุณเอง. วิธีเขียนรายงานการฝึกงาน – นี่คือขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติตาม การเขียนรายงานการฝึกงานต้องมีการวางแผนที่ดี ที่นี่คือ ขั้นตอนการรู้วิธีเขียนรายงานการฝึกงาน: 1. เขียนชื่อเรื่อง ใส่ชื่อเรื่องในจดหมายปะหน้า ป้อนชื่อโรงเรียน ชื่อของคุณ วันที่ฝึกงาน และรายละเอียดการติดต่อของบริษัท ชื่อเรื่องควรเน้นธีมของการมอบหมายงานฝึกงานของคุณ ดังนั้นจึงต้องมีชื่อเรื่องสำหรับแต่ละหน้า 2. นำเสนอสารบัญ เพิ่ม สารบัญ เพื่อให้นายจ้างรู้ว่าจะคาดหวังอะไรจากรายงานการฝึกงานของคุณ ควรเป็นส่วนแรกของรายงานของคุณ 3. เขียนคำนำ แนะนำ ลักษณะบริษัท. ตัวอย่างเช่น บอกว่ากิจกรรมในแต่ละวันของพวกเขาดำเนินไปอย่างไรและสถานะของพวกเขาในอุตสาหกรรมเป็นอย่างไร สิ่งนี้สามารถแสดงให้เห็นว่าคุณมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับบริษัทที่คุณฝึกงาน 4.
วิธีการเขียนจดหมายสมัครงานที่ดี Many applicants fail to secure jobs today not because their application letter was not received, but just because they failed to put up their application to a good standard. คุณจำเป็นต้องเขียนจดหมายสมัครงานหรือไม่? ไม่แน่ใจว่าจะรวมอะไรหรือจัดรูปแบบจดหมายของคุณอย่างไร นายจ้างคาดหวังอะไรให้อ่านในจดหมายที่ได้รับจากผู้สมัคร? นี่คือข้อมูลทั้งหมดที่คุณต้องใช้ในการเขียนจดหมายสมัครงานที่จะช่วยให้คุณได้รับการสัมภาษณ์งาน กรุณาอ่านโพสต์นี้ให้จบ When you're looking for a new job, many of your applications will be completed online either directly on an employer's website or via a job board. Before you start job searching, you should first prepare to complete online job applications. This requires gathering all the information you'll need to apply. It will be easier to get your applications in if you have all the employment information employers want on hand.
แล้วอีเมลที่น่าอ่านควรเป็นอย่างไร?
บทสรุปของรายงานการฝึกงานจะช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้น อย่าลืมเขียนบทเรียนสองสามบทเรียนที่คุณได้เรียนรู้ระหว่างการฝึกงาน ทั้งในด้านอาชีพและส่วนตัว อย่าลืมที่จะแบ่งปันบทความ! [รวม: 27 หมายถึง: 4. 7]
guiacatolico.com, 2024