โครงสร้างง่าย ไม่มรี ะบบลนิ้ ที่ยุ่งยากสลบั 1. สิ้นเปลืองนา้ มนั เบนซินและนา้ มนั เคร่ือง ซับซ้อน มากกว่าเคร่ืองยนต์ 4 จังหวะ 2. ได้เปรียบด้านกาลงั ต่อนา้ หนกั ของเคร่ืองยนต์ 2. ส่วนประกอบเครื่องยนต์รับภาระทาง คือนา้ หนักน้อย ความร้อนสูง เพราะมกี ารเผาไหม้ทุกรอบ 3. มชี ิ้นส่วนเคล่ือนไหวน้อย จงึ ประหยดั ท้ังค่า 3. ส่วนประกอบเคร่ืองยนต์ต้องรับภาระทาง ซ่อมและค่าบารุงรักษา กลสูง เพราะเครื่องยนต์ทางานทุกรอบ 4. เครื่องยนต์ส่งกาลงั ได้เรียบกว่า เพราะ 4. เคร่ืองยนต์ระบายความร้อนออกยาก เพราะ เครื่องยนต์ทางานทุกรอบทเ่ี พลาข้อเหวยี่ ง มเี วลาจากดั ทางานทุกรอบ หมนุ 5. ทอร์กหรือแรงบิดสู้เคร่ืองยนต์ 4 จงั หวะ 5. ออกแบบให้เป็ นเคร่ืองยนต์อเนกประสงค์ได้ดี ไม่ได้ เพราะตดิ ต้งั ใช้งานได้ท้งั แนวนอนและแนวดง่ิ 6. ไอเสียมมี ลพษิ ท้ังแก๊สพษิ และควนั เป็ น อนั ตรายต่อส่ิงแวดล้อม ส่วนประกอบเครื่องยนต์เบนซิน 2 และ 4 จงั หวะ ส่วนประกอบเครื่องยนต์เบนซิน 2 จังหวะ ส่วนประกอบเคร่ืองยนต์เบนซิน 4 จังหวะ 1 ห้องเพลาข้อเหวยี่ ง ห้องเพลาข้อเหวยี่ ง 1200o ซ. บรรจุไอดี บรรจุนา้ มนั เครื่อง นา้ มนั เคร่ือง ผสมเบนซิน 120o ซ.
แบบรีดวาล์ว (Reed Valve) เครื่องยนต์แบบนี้ได้มีการปรับปรุงเพื่อป้องกันสาเหตุที่ไอดีสามารถไหลย้อนกลับไปทางคาร์บูเรเตอร์ โดยกการติดตั้งลิ้นกับกลับที่เรียกว่า "รีดวาล์ว" (Reed "Valve) ซึ่งทำจากแผ่นเหล็กสปริงที่มีความเหนียวและแข็งแรงต่อแรงกระแทกได้ดี 3. แบบโรตารี่ (Rotary Valve) เครื่องยนต์แบบนี้การคายไอเสียจะใช้ส่วนบนของลูกสูบเปิดหรือปิดช่องไอเสีย การบรรจุไอดีเข้าห้องเพลาข้อเหวี่ยงจะใช้แผ่นโรตารี่วาล์วเปิดหรือปิดช่องไอดี ดังนั้นการบรรจุไอดีเพิ่มหรือลดจึงทำได้โดยง่าย อัตราแร่งและกำลังของเครื่องยนต์จะมีมากที่ความเร็วต่ำและสูง 4. แบบเพาเวอร์รีด (Power Reed) เครื่องยนต์แบบนี้จะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างแบบลูกสูบกับแบบรีดวาล์ว ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์สูง ทั้งขณะที่เครื่องยนต์มีความเร็วรอบต่ำและสูง 5. แบบแคร้งค์เคสรีดวาล์ว (Crank Case Reed Valve) เครื่องยนต์แบบนี้จะให้ไอดีไหลเข้าในห้องเพลาข้อเหวี่ยงโดยตรง (ไม่ผ่านเสื้อสูบ) และใช้รีดวาล์วเป็นอุปกรณ์ป้องกันการไหลกลับการไหลของไอดีเช่นเดียวกันกับแบบรีดวาล์ว ทำให้ระยะทางการไหลของไอดีสั้นลงทำให้สามารถบรรจุไอดีเข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งมีผลให้รถมีอัตราเร่งดีขึ้น แบบฝึกหัดหลังเรียน
เครื่องยนต์ดีเซล ( อังกฤษ: diesel engine) เป็นเครื่องยนต์ประเภทหนึ่ง คิดค้นโดย นาย รูดอล์ฟ ดีเซล (Rudolf Diesel) วิศวกรชาว เยอรมัน ในปี ค. ศ. 1897 อาศัยการทำงานของกลจักร คาร์โนต์ (Carnot's cycle) ซึ่งคิดขึ้นโดยชาวฝรั่งเศสชื่อ ซาร์ดิ คาร์โน ( Sardi carnot) ตั้งแต่ปี ค.
ตาแหน่งยกลกู กระทุ้งลนิ้ ไอเสีย 2.
เครื่องยนต์ 4 จังหวะ ( Four-stroke engine) เป็นเครื่องยนต์ที่ใช้ในรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถบรรทุก ที่ใช้เครื่องยนต์ที่มีการเผาไหม้ภายใน สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน ( petrol engine หรือ gasoline engine) ไอของน้ำมันจะถูกอัดแล้วถูกจุดระเบิดโดยหัวเทียน มีสี่ขั้นตอนคือ 1. ดูด 2. อัด 3. ระเบิด 4. คาย ต่อไป เป็นการทำงานของเครื่องยนต์ภายในกระบอกสูบ ช่วงชักดูด ลูกสูบเลื่อนจากศูนย์ตายบนลงสู่ศูนย์ตายล่างลิ้นไอดีเปิด ไอดีจึงเข้ามาภายในกระบอกสูบ (ไอดี คือ ละอองน้ำมันผสมกับอากาศ) ลิ้นไอเสียปิดสนิท จุดสีฟ้า คือละอองไอดี 2. ช่วงชักอัด ลูกสูบเคลื่อนที่จากศูนย์ตายล่าง ขึ้นสู่ ศูนย์ตายบน ศุนย์ตายบนอัดไอดีให้ร้อนขึ้น 700-900 องศาเซลเซียส ลิ้นไอดีไอเสียปิดสนิท จุดสีเหลืองเเละสีเเดง คือความร้อนที่เพิ่มสูงขึ้น 3. ช่วงระเบิด ก่อนลูกสูบเคลื่อนที่ขึ้นสู่จุดศูนย์ตายบน หัวเทียนได้จุดระเบิด ด้วยประกายไฟ 25, 000 โวลต์ เเรงระเบิดทำให้ลูกสูบเลื่อนลง เปลี่ยนความร้อนเป็นพลังงานกล 4.
การทำงานของเครื่องยนต์ 4 จังหวะ | Car of Know - YouTube
ทำให้อากาศไหลเวียนเข้าเครื่องยนต์ต่อเนื่อง ละ 2.
หลักการทำงานและวัฏจักรของเครื่องยนต์โรตารี่ ในการทำงานของเครื่องยนต์โรตารี่ประเภทนี้ จะมีหลักการทำงานที่คล้ายคลึงกับเครื่องยนต์สูบชัก วัฏจักรการทำงานของเครื่องยนต์โรตารี่นั้นมีทั้งหมด 4- จังหวะ ซึ่งประกอบไปด้วย จังหวะดูด, จังหวะอัด, จังหวะระเบิด และจังหวะคายไอเสีย แต่ส่วนแตกต่างที่เห็นได้ชัดก็คือว่า ใน 1 รอบการหมุนของเพลาข้อเหวี่ยง เครื่องยนต์โรตารี จะสามารถสร้างกำลังได้ถึง 3 ครั้ง ผิดกับเครื่องยนต์ลูกสูบ ที่เพลาข้อเหวี่ยงต้องหมุนถึง 2 รอบ จึงจะสร้างกำลังได้ (โรตารี เพลาเยื้องศูนย์หมุน 1 รอบ สร้างกำลังได้ 1 ครั้ง / เครื่องยนต์ปกติ หมุน 1 รอบ สร้างกำลังได้ 0. 5 ครั้ง) และการสร้างกำลังได้อย่างมหาศาลต่อการหมุนหนึ่งรอบ ก็คือข้อได้เปรียบที่โดดเด่นที่สุดของเครื่องยนต์สูบหมุน เรียบเรียงใหม่โดย Thanathip
เครื่องยนต์ 4 จังหวะ มอเตอร์ไซค์ มีหลักการทำงานอย่างไร? อะไรคือจังหวะดูด จังหวะอัด จังหวะระเบิด และจังหวะคาย เครื่องยนต์ 4 จังหวะ เครื่องยนต์4จังหวะ (4 stroke engine) เป็นลักษณะการทำงานอีกรูปแบบหนึ่งของเครื่องยนต์รถจักรยานยนต์ จุดเด่นอยู่ที่ให้อัตราเร่งที่ดี ให้พละกำลังแรง มีอัตราการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ ควันที่ออกมาจึงมีน้อยมาก ๆ จัดว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญ ยังประหยัดน้ำมันสุด ๆ แถมรอบเดินเรียบเสียงไม่ดังรบกวน แต่ก็มีค่าบำรุงรักษามากพอสมควรเลยทีเดียว เครื่องยนต์ 4 จังหวะ มอเตอร์ไซค์ ทำงานอย่างไร?
guiacatolico.com, 2024